วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ระบบสื่อสารข้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์

    ความหมาย ระบบการโอนถ่ายข้อมูลหรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างต้นทางหรือปลายทางโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์ โทรสาร โมเด็ม คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เครือข่ายต่างๆ ดาวเทียม ควบคุมการส่งและการไหลของข้อมูลจากต้นทางไปยังปลายทาง
      
    องค์ประกอบระบบสื่อสารข้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์
1.ข่าวสาร (Message) เป็นข้อมูลรูปแบบต่างๆ
2.ผู้ส่งหรืออุปกรณ์ส่งข้อมูล (Sender)
3.สื่อหรือตัวกลาง (Media) เป็นสื่อหรือช่องทาง ที่ใช้ในการนำข้อมูลจากต้นทางไปยังปลายทาง
4.ผู้รับหรืออุปกรณ์รับข้อมูล (Receiver)
5.กฎ ข้อตกลง ระเบียบวิธีการรับส่ง(protocol)

    
    สื่อหรือตัวกลางของระบบสื่อสารข้อมูลสำหรับคอมพิวเตอร์
1.สื่อหรือตัวกลางประเภทมีสาย
1.1 สายคู่บิดเกลียว (twisted pair) มี 2 ชนิด คือ
– สายคู่บิดเกลียวไม่มีฉนวนหุ้ม (Unshielded Twisted Pair : UTP)
– สายคู่บิดเกลียวมีฉนวนหุ้ม (Shielded Twisted Pair : STP)
1.2 สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) เป็นสื่อกลางที่มีส่วนของสายส่งข้อมูล
เป็นลวดทองแดงอยู่ตรงกลาง หุ้มด้วยพลาสติก ส่วนชั้นนอกหุ้มด้วยโลหะหรือฟอยล์ถักเป็นร่างแหเพื่อป้องกันสัญญาณรบกวน
1.3 สายใยแก้วนำแสง (Fiber-optic cable) เป็นสื่อกลางที่ใช้ส่งข้อมูลในรูปแบบของแสง

2.สื่อหรือตัวกลางประเภทไร้สาย
2.1 คลื่นไมโครเวฟ (Microwave) เป็นสื่อกลางในการสื่อสารที่มีความเร็วสูง
ส่งข้อมูลโดยอาศัยสัญญาณไมโครเวฟซึ่งเป็นสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
เหมาะกับการส่งข้อมูลในพื้นที่ห่างไกลกันมากๆ หรือพื้นที่ทุรกันดาร
2.2 ดาวเทียม (Satellite) ในการส่งสัญญาณดาวเทียมนั้น จะต้องมีสถานี
ภาคพื้นดินคอยทำหน้าที่รับและส่งสัญญาณขึ้นไปบนดาวเทียม

2.3 แอคเซสพอยต์ (Access Point)

รูปแบบการเชื่อมต่อของระบบเครือข่าย
1.การเชื่อมต่อเครือข่ายแบบบัส (bus network) เป็นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ ทุกเครื่องบนสายสัญญาณหลักเส้นเดียว ที่ปลายทั้งสองด้านปิดด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า Terminator ไม่มีคอมพิวเตอร์เครื่องใด เครื่องหนึ่ง เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อ คอมพิวเตอร์เครื่องใดหยุดทำงาน ก็ไม่มีผลกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ในเครือข่าย การรับส่งสัญญาณบนสายสัญญาณต้องตรวจสอบสายสัญญาณ BUS ให้ว่างก่อน จึงจะสามารถส่งสัญญาณไปบนสาย BUS ได้
2. การเชื่อต่อเครือข่ายแบบวงแหวน (ring network) การเชื่อมต่อแบบวงแหวน เป็นการเชื่อมต่อจากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง จนครบวงจร ในการส่งข้อมูลจะส่งออกที่สายสัญญาณวงแหวน โดยจะเป็นการส่งผ่านจากเครื่องหนึ่ง ไปสู่เครื่องหนึ่งจนกว่าจะถึงเครื่องปลายทาง ปัญหาของโครงสร้างแบบนี้คือ ถ้าหากมีสายขาดในส่วนใดจะทำ ให้ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
3. การเชื่อมต่อเครือข่ายแบบดาว (Star network)  เป็นการเชื่อมต่อสายสื่อสารจากคอมพิวเตอร์หลายๆเครื่องไปยังฮับ (hub) หรือ สวิตช์ (switch) ซึ่งเป็นอุปกรณ์สลับสายกลางแบบจุดต่อจุดเป็นศูนย์กลางของการเชื่อมต่อ วงจรเชื่อมโยงระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ติดต่อสื่อสารถึงกัน
4. เครือข่ายแบบ Hybrid เป็นการเชื่อมต่อที่ผสมผสานเครือข่ายย่อยๆ หลายส่วนมารวมเข้าด้วยกัน เช่น นำเอาเครือข่ายระบบ Bus, ระบบ Ring และ ระบบ Star มาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน เหมาะสำหรับบางหน่วยงานที่มีเครือข่ายเก่าและใหม่ให้สามารถทำงานร่วมกัน

อุปกรณ์เครือข่าย
1. ฮับ (hub) เป็นอุปกรณ์ที่ทวนและขยายสัญญาณเพื่อส่งต่อไปยังอุปกรณ์อื่นให้ได้ระยะทางที่ยาวไกลขึ้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลก่อนและหลังการรับส่งและไม่มีการใช้ซอฟแวร์ใด ๆ มาเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ชนิดนี้ การติดตั้งทำได้ง่าย
2. โมเด็ม (modem) เป็นฮาร์ดแวร์ที่ทำหน้าที่แปลงสัญญาณอนาล็อก(Analog signal)ให้เป็นสัญญาณดิจิทัล (Digital Signal)และในทางกลับกันก็แปลงสัญญาณดิจิทัลให้เป็นสัญญาณอนาล็อก
3. การ์ด LAN (Network Interface Card – NIC) เป็นการ์ดสำหรับต่อเครื่องพีซีเข้ากับสาย LAN
4. สวิตช์ (Switching) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่กระจายช่องทางการสื่อสารข้อมูลหลายช่องทางการสื่อสารข้อมูลหลายช่องทางในระบบเครือข่ายคล้ายHubแต่ต่างกันในเรื่องของกรทำงานและความเร็ว คือ แต่ละช่องสัญญาณ (port) จะใช้ความเร็วเป็นอิสระต่อกันตามมาตรฐานความเร็ว
5. เราท์เตอร์ (router) เป็นอุปกรณ์ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมโยงให้เครือข่ายหลายเครือข่ายที่มีขนาดต่างกันหรือใช้มาตรฐานการส่งผ่านข้อมูล (Transmission) ต่างกันสามารถติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้



วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

จังหวัดสุราษฎร์ธานี

จังหวัดสุราษฎร์ธานี มักจะเรียกกันด้วยชื่อสั้น ๆ ว่า "สุราษฎร์" ใช้อักษรย่อ "สฎ" เป็นจังหวัดในภาคใต้ตอนบน มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศ และมีประชากรหนาแน่นอันดับ 59 ของประเทศ นับเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีหลักฐานทั้งประวัติศาสตร์และโบราณคดีเก่าแก่ และยังมีแหล่งท่องเที่ยวและอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง
จังหวัดสุราษฎร์ธานีตั้งอยู่ในฝั่งตะวันออกของภาคใต้ โดยมีสภาพภูมิประเทศที่หลากหลายทั้งที่ราบสูง ภูมิประเทศแบบภูเขา รวมทั้งที่ราบชายฝั่ง มีพื้นที่ครอบคลุมถึงในบริเวณอ่าวไทย ทั้งบริเวณที่เป็นทะเลและเป็นเกาะ เกาะในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์มีทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เกาะขนาดใหญ่เป็นที่รู้จักเช่นเกาะสมุย เกาะพะงัน และหมู่เกาะอ่างทอง เนื่องจากทำเลที่ตั้งจึงได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเกิดบริเวณทะเลอันดามันบ้างเป็นครั้งคราวเนื่องจากจะมีแนวเทือกเขาตะนาวศรี เทือกเขาภูเก็ต และเทือกเขานครศรีธรรมราช แถบบริเวณจังหวัดระนอง จังหวัดชุมพร จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นแนวช่วยลดอิทธิพลของลมมรสุมดังกล่าว ในทางกลับกันพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีจะได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเป็นส่วนใหญ่ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือปกติจะมีแหล่งกำเนิดบริเวณทะเลจีนใต้และอ่าวไทย ทำให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีช่วงฤดูฝนกินระยะเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงเดือนมกราคม
ซึ่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีจำนวนเกาะในเขตพื้นที่จังหวัดมากถึง 108 เกาะ นับว่ามากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองมาจากจังหวัดพังงาที่มี 155 เกาะ และจังหวัดภูเก็ตที่มี 154 เกาะ
ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ โดยประกอบอาชีพทางด้านการเกษตรเป็นหลัก โดยใช้พิ้นที่ในการทำการเกษตรประมาณร้อยละ 45 ของพื้นที่ทั้งหมด นอกจากนี้ ยังประกอบอาชีพทางด้านปศุสัตว์ ประมง อุตสาหกรรม รวมทั้งมีการทำเหมืองแร่ด้วย
ส่วนการเดินทางมายังจังหวัดสุราษฎร์ธานีสามารถใช้ได้หลายเส้นทาง ทั้งทางรถไฟ เครื่องบิน รถโดยสารประจำทาง เรือ และรถยนต์ส่วนบุคคล
สถานที่สำคัญภายในจังหวัดนั้น มีทั้งแหล่งโบราณสถาน เช่น พระบรมธาตุไชยา พระธาตุศรีสุราษฎร์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา ซากเมืองโบราณสมัยอาณาจักรศรีวิชัย แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติทั้งอุทยานแห่งชาติทางบก และอุทยานแห่งชาติทางทะเล น้ำตก เกาะ แม่น้ำ เขื่อน วัด และพระอารามหลวง เป็นต้นและยังเป็นแหล่งสืบสานประเพณีที่สำคัญของชาวใต้ คือประเพณีชักพระ ทอดผ้าป่าและแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีผลิตผล และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรที่เป็นที่รู้จัก เช่น ไข่เค็มไชยา หอยนางรม และเงาะโรงเรียน ดังที่ปรากฏในคำขวัญของจังหวัด

ประวัติจังหวัดสุราษฎร์ธานี

จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นที่ตั้งของเมืองเก่า เป็นศูนย์กลางของเมืองศรีวิชัย มีหลักฐานแสดงถึงการตั้งรกรากและเส้นทางสายไหมในอดีต พื้นที่อ่าวบ้านดอนเจริญขึ้นจนเป็นอาณาจักรศรีวิชัยในช่วงหลังพุทธศตวรรษที่ 13 โดยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์เป็นเครื่องยืนยันความรุ่งเรืองในอดีต ภายหลังยังเชื่อว่า เมื่ออาณาจักรตามพรลิงก์หรือเมืองนครศรีธรรมราชมีความรุ่งเรืองมากขึ้นนั้น เมืองไชยาก็เป็นหนึ่งในเมืองสิบสองนักษัตรของเมืองนครศรีธรรมราชด้วย ชื่อว่า "เมืองบันไทยสมอ"

นอกจากนี้ในยุคใกล้เคียงกันนั้นยังพบความเจริญของเมืองที่เกิดขึ้นในบริเวณลุ่มแม่น้ำตาปี ได้แก่ เมืองเวียงสระ เมืองคีรีรัฐนิคม และเมืองท่าทอง โดยเชื่อว่าเจ้าศรีธรรมาโศก ผู้ครองเมืองนครศรีธรรมราชนั้นอพยพย้ายเมืองมาจากเมืองเวียงสระ เนื่องจากเป็นเมืองที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล รวมทั้งเกิดโรคภัยระบาด และเมื่อเมืองนครศรีธรรมราชเจริญรุ่งเรืองนั้น ได้ยกเมืองไชยา และเมืองท่าทอง เป็นเมืองสิบสองนักษัตรของตนด้วย

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้งอู่เรื่อพระที่นั่งและเรือรบเพื่อใช้ในราชการที่อ่าวบ้านดอน ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงให้ย้ายที่ตั้งเมืองท่าทองมายังอ่าวบ้านดอน (ซึ่งเป็นที่ตั้งของอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีในปัจจุบัน) พร้อมทั้งยกฐานะให้เป็นเมืองจัตวา ขึ้นตรงต่อกรุงเทพมหานคร และพระราชทานชื่อว่า "เมืองกาญจนดิษฐ์" โดยแต่งตั้งให้พระยากาญจนดิษฐ์บดีเป็นเจ้าเมืองดูแลการปกครอง

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ให้รวมเมืองกาญจนดิษฐ์ เมืองคีรีรัฐนิคม และเมืองไชยาเป็นเมืองเดียวกัน เรียกว่า "เมืองไชยา" ภายใต้สังกัดมณฑลชุมพร

เมื่อเมืองขยายใหญ่ขึ้น จึงมีการปรับเปลี่ยนการปกครองและขยายเมืองออกไป มีการสร้างเมืองใหม่ขึ้นที่ อ่าวบ้านดอน ให้ชื่อเมืองใหม่ว่า อำเภอไชยา และให้ชื่อเมื่องเก่าว่า "อำเภอพุมเรียง" แต่เนื่องด้วยประชาชนยังติดเรียกชื่อเมืองเก่าว่า "อำเภอไชยา" ด้วยเหตุนี้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงพระราชทานนามเมืองใหม่ที่บ้านดอนว่า "สุราษฎร์ธานี" และให้ชื่อเมืองเก่าว่า "อำเภอไชยา"และพระราชทานนามแม่น้ำตาปี ให้ในคราวเดียวกันนั้นเอง ซึ่งเป็นการตั้งชื่อตามแบบเมืองและแม่น้ำในประเทศอินเดียที่มีแม่น้ำตาปติไหลลงสู่ทะเลออกผ่านปากอ่าวที่เมือง สุรัฎร์

สัญลักษณ์ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี

ตราประจำจังหวัด คือ พระบรมธาตุไชยา ซึ่งมีศิลปะแบบศรีวิชัย ตั้งอยู่ ณ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร โดยสร้างขึ้นเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 13-14 และเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย ต้นไม้ประจำจังหวัด ได้แก่ ต้นเคี่ยม (Cotylelobium melanoxylon)ตั้งอยู่อำเภอวิภาวดีดอกไม้ประจำจังหวัด ได้แก่ ดอกบัวผุด (Rafflesia kerrii) ตั้งอยู่อำเภอพนมคำขวัญประจำจังหวัด ได้แก่ เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะคำขวัญประจำจังหวัดในอดีต แต่งโดยพระเทพรัตนกวี (ก.ธรรมวร) อดีตเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี: "สะตอวัดประดู่ พลูคลองยัน ทุเรียนหวานมันคลองพระแสง ย่านดินแดงของป่า เคียนซาบ่อถ่านหิน พุนพินมีท่าข้ามแม่น้ำตาปี ไม้แก้วดีเขาประสงค์ กระแดะดงลางสาด สิ่งประหลาดอำเภอพนม เงาะอุดมบ้านส้อง จากและคลองในบาง ท่าฉางต้นตาล บ้านนาสารแร่ ท่าทองอุแทวัดเก่า อ่าวบ้านดอนปลา ไชยาข้าว มะพร้าวเกาะสมุย"ลักษณะรูปร่างของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลักษณะรูปร่างของจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีรูปร่างลักษณะคล้ายกับ "ผีเสื้อที่กำลังกางปีกโบยบินอยู่"เพลงประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี รุ่งเรืองสมเมืองคนดี อีกธารตาปี นามพระธีรราชประทาน เป็นแดนอุดมไม้ปลา มะพร้าวมาเนิ่นนาน เหล่าราษฎร์สุขศานต์ มุ่งมั่นขยันทำกิน มิ่งขวัญ ชาวเมือง มีองค์พระธาตุพุทธศาสน์ประเทือง ถิ่นชนกตัญญูยิ่ง เมตตาอยู่อาจิณ ร่วมรักแผ่นดิน คนดี นี้ไชโย

ที่พักในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี

ถ้างบ 1,000-2,000 บาท แนะนำ

1. ไดมอนด์ พลาซ่า โฮเต็ล : อยู่เยื้องๆ Central plaza สุราษฎร์ธานี ครับ ขับผ่านแยกท่ากูบมา . . .  เป็นตึกสูงๆ เห็นแน่นอน
ราคา พันต้นๆ

2. รร.วังใต้ : ต้องขับเข้ามาในเมือง ผ่าน รพ.สุราษฯ มา (ช่วงนี้รถติดหน่อยนะ 8-16 มีงานสุราษฎร์ฟู้ดแฟร์ 2013) จัดข้างวังใต้พอดี รถติดมากกกกก อีกอย่าง รร.เก่าแล้ว เป็นผม ผมพักไดมอนด์ดีกว่า
ราคา ประมาณ 1 พันบาท

3. รร.ร้อยเกาะ : อยู่ตรงข้าม lotus สุราษ . . . อยู่ตรงสี่แยก Central (แยกท่ากูบ) อันนี้ไม่เคยพัก
ราคาไม่ถึงพันบาท


ผมว่า 3 ที่นี่แหล่ะครับ สะดวกดี
ที่อื่นที่ถูกกว่านี้ ลอง search ดูต่อเอาเองนะ : แกรนด์ ธารา โฮเต็ล (อยู่ในเมือง ตรงข้ามศาลหลักเมือง - รถติด), 
โรงแรมบรรจงบุรี, SR, The one, นิภาการ์เด้น, 

วิธีการอัพโหลดวีดีโอลง Youtube และวิธีการนำวีดีโอจาก Youtube มาใส่ในหน้าเว็บของคุณ

เชื่อว่าเกือบทุกคน น่าจะรู้จัก Youtube เป็นอย่างดี
เพราะทุกวันนี้ เราได้ดูวีดีโอต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียน/การสอน, การแสดงความสามารถ, ข่าวสารมีสาระ หรือแม้แต่ ละครย้อนหลัง(ที่เราพลาดจากการดูในโทรทัศน์ตามเวลาที่ฉายจริง)
พูดมาถึงตรงนี้แล้ว หลาย ๆ คนคงจะรู้ดีว่า youtube ก็คือเว็บที่ให้เรา สามารถนำคลิปวีดีโอ มา upload ขึ้นไป เพื่อให้คนทั่วไป สามารถเข้ามาชมคลิปวีดีโอนี้ได้
ถึงแม้ว่า หลาย ๆ คนจะรู้วิธีการเข้าไปเลือกชมวีดีโอบน youtube เป็นอย่างดีแล้ว
แต่ผมเชื่อว่า อาจจะมีบางท่าน ที่ยังไม่รู้ ถึงวิธีการนำวีดีโอไปไว้บน youtube
หรือแม้แต่วิธีการที่จะนำวีดีโอจาก youtube ใส่เข้าไปในหน้าเว็บของตนเอง
ดังนั้น ในบทความนี้ จะสอนถึงวิธีการทั้ง 2 วิธีเลยครับ (เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการสร้างไฟล์วีดีโอส่วนตัว และวิธีการนำวีดีโอนี้ใส่ไว้ในหน้าเว็บ)

วิธีการนำวีดีโอใส่ใน Youtube
ขั้นตอนการการนำวีดีโอใส่ใน youtube นั้นไม่ยุ่งยากครับ
เพียงแค่คุณมีคลิปวีดีโออยู่ก็สามารถนำมา upload ลงที่ youtube ได้เลย
โดย youtube จะลองรับรูปแบบฟอแมท์ของไฟล์วีดีโอ หลากหลายรูปแบบครับ ดังนั้น ไม่ว่าวีดีโอของคุณจะถ่ายมาด้วยสื่อชนิดใดก็ตาม ก็สามารถ upload เข้าไปใน youtube ได้ครับ
เพียงแต่ในช่วงเวลาที่อัพโหลดวีดีโอเข้าไป youtube จะทำการแปลงฟอแมท์ของไฟล์วีดีโอของคุณให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถใช้งานกับ youtube ได้
และก่อนที่คุณจะสามารถอัพโหลดวีดีโอขึ้นไปที่ youtube ได้
คุณจะต้องเป็นสมาชิกกับเว็บของ youtube ก่อน
(สืบเนื่องจาก Google ได้เข้าไปเทค youtube มาก่อนหน้านี้ ทำให้ ณ. ปัจจุบัน youtube จะผูกกับบริการของ google โดยตรง ดังนั้น ถ้าคุณมีสมาชิก Gmail หรือ Google อยู่ ก็สามารถใช้ข้อมูลสมาชิกนั้น ๆ ในการเข้าไปอัพโหลดไฟล์วีดีโอได้)

Unreal Engine 4

หนึ่งในทีมงานของ Unreal Engine ที่ใช้ชื่อว่า Koola ได้เปิดเผยภาพ Screenshots จำนวนสองภาพจากโปรเจคหรืองานชิ้นล่าสุดของเขา ซึ่งจากภาพที่เห็นนั้นผมว่าทุกคนจะต้องตะลึงงันอย่างแน่นอน เพราะภาพที่ออกมานั้นมันมีความสมจริงอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งคาดว่าเราน่าจะได้เห็นภาพในลักษณะนี้ กับภาพมีความใกล้เคียงกับโลกความเป็นจริงจากเกมในเร็ววันนี้แน่นอน
Unreal-Engine-4-2Unreal-Engine-4-1
สำหรับ Koola นั้นเคยมีการส่งผลงานที่เรียกว่า hyper realistic real-time architectural หรือเทคนิคการสร้างเสมือนในแบบเรียลไทม์โดยใช้ Unreal Engine 4 และเข้าก็ได้สร้างความประทับใจรวมทั้งความแปลกใจให้กับทีมงานของ Unreal Engine รวมถึงผู้สื่อข่าวต่างๆจากทั่วโลก จนกระทั่ง Koola คือคนแรกที่ได้รับเงินสนับสนุนจากทาง financial development fund หรือเงินกองทุนสำหรับใช้เป็นรางวัลเพื่อจูงใจให้มีคนสนใจนำ Unreal Engine ไปสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ

การเดินทางของฉันและเธอคือการเรียนรู้ การเรียนรู้ของเราสองคนคือความเข้าใจ


การเดินทางไปสุราษฎร์ธานี,เกาะสมุย


การเดินทางไปยัง สุราษฎร์ธานี

    ทางรถยนต์  จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายพุทธมณฑล-นครปฐม-เพชรบุรี - ประจวบคีรีขันธ์ -ชุมพร - สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 685 กิโลเมตร

    ทางรถโดยสารประจำทาง บริษัทขนส่ง จำกัด เปิดบริการเดินรถ กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ทุกวันรายละเอียดการเดินทางติดต่อ สอบถามได้ที่ โทร. 4345557-8 (รถธรรมดา) และโทร. 4351199 (รถปรับอากาศ) นอกจากนี้มีรถโดยสาร ของเอกชนกว่า 10 บริษัท วิ่งบริการระหว่าง กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ทุกวัน รถออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี เวลา 20.00 น. ค่าโดยสาร 225 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง ติดต่อ ได้ที่สำนักงานของบริษัท ที่สถานีขนส่งสายใต้โดยตรง

    ทางรถไฟ จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ มีบริการเดินรถทุกวัน ระยะทาง 650 กิโลเมตร ผู้โดยสารต้องไปลงที่ สถานีรถไฟพุนพิน แล้วต่อรถประจำทางหรือแท็กซี่ เข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานีระยะทาง 13 กิโลเมตร ติดต่อ ขอทราบรายละเอียดการเดินทางได้ที่ หน่วยบริการเดินทาง การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 2237010, 2237020

    ทางอากาศ การบินไทยมีบริการเครื่องบินกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี ทุกวัน ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 2800070, 2800080 หรือที่สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทร. (077) 272610, 273710

จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทาง โดยรถยนต์หรือรถไฟ ออกจากกรุงเทพฯ ในตอนเย็นหรือค่ำ ถึง ปลายทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีในเช้าวันรุ่งขึ้น จากนั้นไปติดต่อสำรองที่นั่งเรือโดยสาร ได้ที่บริษัททัวร์ทั่วไปใน ตัวเมืองสุราษฎร์ โดยบริษัททัวร์เหล่านี้มีบริการรับส่งถึงท่าเรือ สำหรับผู้ที่นำรถยนต์ส่วนตัวไปเอง สามารถนำรถยนต์ลงเรือเฟอร์รี่ที่ท่าเรือดอนสัก เพื่อข้ามไปยังเกาะสมุย หรือเกาะพะงันได้

การเดินทาง สู่เกาะสมุย

รถโดยสารจากกรุงเทพฯ เดินทางโดยตรงถึงเกาะสมุย โดยคิดราคารวมทั้งค่ารถ และค่าเรือเฟอรี่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12 ชั่วโมง รายละเอียดติดต่อ บริษัทขนส่ง จำกัด โทร. 4345557-8 (มีรถธรรมดาและรถปรับอากาศ), บริษัทโสภณทัวร์ โทร. 4355023 (รถปรับอากาศ) และ 999 ทัวร์ โทร. 4351199 (รถปรับอากาศ)

ทางเครื่องบิน บริษัท บางกอกแอร์เวย์ (การบินกรุงเทพฯ) เปิดบริการเครื่องบิน ไป-กลับ กรุงเทพฯ-เกาะสมุยทุกวัน วันละ 8 เที่ยว ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 10 นาที ติดต่อสอบถาม และสำรองที่นั่งได้ที่บริษัท บางกอกแอร์เวย์ จำกัด สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 2534014 หรือที่ สำนักงานเกาะสมุย ตลาดหน้าทอน โทร. (077) 421483, 421297 บริการเรือรับส่ง ผู้โดยสารไปเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า (กำหนดเวลาและ ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้)


    เรือเฟอร์รี่ของบริษัทสมุยเฟอร์รี่ (วิ่งเส้นทางสุราษฎร์-สมุย)
    เที่ยวไป เรือออกจากท่าเรือเฟอร์รี่ดอนสัก (สุราษฎร์ธานี) ถึงท่าเรือเฟอร์รี่เกาะสมุย วันละ 4 เที่ยว เวลา 8.00 น. / 10.00 น. /14.00 น. /17.00 น.
    เที่ยวกลับ เรือออกจากท่าเรือเฟอร์รีเกาะสมุย ถึงท่าเรือเฟอร์รี่ดอนสัก (สุราษฎร์ธานี) วันละ 4 เที่ยว เวลา 7.30 น. /10.00 น. /14.00 น. 16.00 น.
    ระยะเวลาการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ค่าโดยสารเที่ยวเดียว คนละ 40 บาท รถยนต์รวมคนขับ 180 บาท รถตู้รวมคนขับ 200 บาท รถทัศนาจรรวมคนขับ 300-400 บาท รายละเอียดติดต่อ ซีทรานทราเวล โทร. 2491454, 2491198 สำนักงานที่ท่าเรือเฟอร์รี่เกาะสมุย โทร. (077) 421367-8

    เรือเร็วของบริษัทส่งเสริม (วิ่งเส้นทางสุราษฎร์-สมุย-พะงัน)

    เส้นทางสุราษฎร์-สมุย
    เที่ยวไป เรือออกจากท่าเรือปากน้ำท่าทอง (สุราษฎร์ธานี) ถึงท่าเรือหน้าทอน (เกาะสมุย) วันละ 3 เที่ยว เวลา 7.15 น. / 12.00 น. /14.00 น.
    เที่ยวกลับ เรือออกจากท่าเรือหน้าทอน (เกาะสมุย) ถึงท่าเรือปากน้ำท่าทอง (สุราษฎร์ธานี) วันละ 3 เที่ยว เวลา 7.15 น. / 12.00 น. /14.45 น.
    ระยะเวลาการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ค่าโดยสารเที่ยวเดียว คนละ 105 บาท

    เส้นทางสมุย-พะงัน
    เที่ยวไป เรือออกจากท่าเรือหน้าทอน (เกาะสมุย) ถึงท่าเรืออ่าวท้องศาลา (เกาะพะงัน) วันละ 3 เที่ยว เวลา 9.41 น. / 10.30 น. /15.30 น.
    เที่ยวกลับ เรือออกจากท่าเรืออ่าวท้องศาลา (เกาะพะงัน) ถึงท่าเรือหน้าทอน (เกาะสมุย) วันละ 3 เที่ยว เวลา 6.15 น. / 11.00 น. /13.00 น.
    ระยะเวลาการเดินทางประมาณ 45 นาที ค่าโดยสารเที่ยวเดียว คนละ 75 บาท ค่าโดยสารตลอดสายจากสุราษฎร์ธานีถึงเกาะพะงัน คนละ 145 บาท รายละเอียดติดต่อ บริษัทส่งเสริมบริการ จำกัด สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 2558790-6, 2531316-7 สาขาเกาะสมุย โทร. (077) 421228 สาขาเกาะพะงัน โทร. (077) 282639 สำนักงานในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ตรงข้ามตลาดเกษตร โทร. (077) 281130

    เรือโฮเวอร์คราฟท์ (วิ่งเส้นทางสุราษฎร์-สมุย)
    เที่ยวไป เรือออกจากท่าเรือท่าทอง (สุราษฎร์ธานี) ถึงท่าเรือหน้าทอน (เกาะสมุย) วันละ 2 เที่ยว เวลา 7.30 น. และ 10.15 น.
    เที่ยวกลับ เรือออกจาก ท่าเรือหน้าทอน (เกาะสมุย) ถึงท่าเรือท่าทอง (สุราษฎร์ธานี) วันละ 2 เที่ยว เวลา 6.30 น. / 12.30 น.
    ระยะเวลาการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ค่าโดยสารเที่ยวเดียว คนละ 350 บาท รวมบริการเครื่องดื่มและอาหารว่าง นอกจากนี้ยังมีบริการนำเที่ยวโดยเรือโฮเวอร์คราฟท์จากเกาะสมุย ไปเกาะพะงัน และหมู่เกาะอ่างทอง แบบเช้าไปเย็นกลับ รายละเอียดติดต่อ บริษัทไทยเจนเนอรัล ทรานสปอร์ต จำกัด สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 2765313-4 สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทร. (077) 283656-8 สำนักงานเกาะสมุย โทร. (077) 421556-7

    เรือนอน มี 2 เส้นทาง คือ สุราษฎร์-สมุย และ สุราษฎร์-พะงัน

    เรือนอน สุราษฎร์-สมุย
    เที่ยวไป เรือออกจากท่าเรือบ้านดอน (สุราษฎร์ธานี) เวลา 23.00 น. ถึงท่าเรือหน้าทอน (เกาะสมุย) เวลา 05.00 น.
    เที่ยวกลับ เรือออกจากท่าเรือหน้าทอน (เกาะสมุย) เวลา 21.00 น. ถึงท่าเรือบ้านดอน (สุราษฎร์ธานี) เวลา 04.00 น. ค่าโดยสารเที่ยวเดียว ชั้นบนคนละ 60 บาท ชั้นล่างคนละ 30 บาท


    เรือนอนสุราษฎร์-พะงัน
    เที่ยวไป เรือออกจากท่าเรือบ้านดอน (สุราษฎร์ธานี) เวลา 23.00 น. ถึงท่าเรืออ่าวท้องศาลา (เกาะพะงัน) เวลา 6.00 น.
    เที่ยวกลับ เรือออกจากท่าเรืออ่าวท้องศาลา (เกาะพะงัน) เวลา 22.00 น. ถึงท่าเรือบ้านดอน (สุราษฎร์ธานี) เวลา 10.00 น.
    ค่าโดยสารเที่ยวเดียว ชั้นบนคนละ 80 บาท ชั้นล่างคนละ 50 บาท

    เรือเฟอร์รี่ของบริษัทเฟอร์รี่พะงัน (วิ่งเส้นทางสุราษฎร์-พะงัน)
    เที่ยวไป เรือออกจาก ท่าเรือเฟอร์รี่ดอนสัก (สุราษฎร์ธานี) ถึงท่าเรืออ่าวท้องศาลา (เกาะพะงัน) วันละ 2 เที่ยว เวลา 9.15 น. และ 15.45 น.
    เที่ยวกลับ เรือออกจาก ท่าเรืออ่าวท้องศาลา (เกาะพะงัน) ถึงท่าเรือเฟอร์รี่ดอนสัก (สุราษฎร์ธานี) วันละ 2 เที่ยว เวลา 6.20 น. และ 13.00 น.
    ระยะเวลาการเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ค่าโดยสารเที่ยวเดียว คนละ 95 บาท รถยนต์รวมคนขับ 350-400 บาท รายละเอียดติดต่อ บริษัทเฟอร์รี่พะงัน จำกัด สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 2531458 สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทร. (077) 286461 สำนักงานเกาะพะงัน โทร. (077) 287033

    เรือโดยสารเกาะพะงัน-เกาะเต่า
    เที่ยวไป เรืออกจากท่าเรืออ่าวท้องศาลา (เกาะพะงัน) เวลา 12.30 น. ถึงท่าเรือบ้านแม่หาด (เกาะเต่า) เวลา 15.00 น.
    เที่ยวกลับ เรือออกจาก ท่าเรือบ้านแม่หาด (เกาะเต่า) เวลา 9.00 น. ถึงท่าเรืออ่าวท้องศาลา (เกาะพะงัน) เวลา 11.00 น. เรือวิ่งบริการทุกวัน ค่าโดยสารเที่ยวเดียว คนละ 150 บาท

    เรือโดยสารชุมพร-เกาะเต่า
    เที่ยวไป เรือออกจากท่าเรือสะพานท่ายาง (ชุมพร) ถึงท่าเรือบ้านแม่หาด (เกาะเต่า) วันละ 1 เที่ยว เวลา 24.00 น.
    เที่ยวกลับ เรือออกจากท่าเรือบ้านแม่หาด (เกาะเต่า ถึงท่าเรือสะพานท่ายาง (ชุมพร) วันละ 1 เที่ยว เวลา 9.00 น.
    ระยะเวลาการเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง เรือวิ่งบริการตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ วันอาทิตย์งดบริการ ค่าโดยสารเที่ยวเดียวคนละ 150 บาท

การเตรียมงานสร้างภาพยนตร์

ภาพยนตร์ 

คือ เป็นกระบวนการบันทึกภาพด้วย ฟิล์ม แล้วนำออกฉายในลักษณะที่แสดงให้เห็นภาพเคลื่อนไหว ภาพที่ปรากฏบนฟิล์มภาพยนตร์หลังจากผ่านกระบวนการถ่ายทำแล้วเป็นเพียงภาพนิ่ง จำนวนมาก ที่มีอิริยาบทหรือแสดงอาการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อยต่อเนื่องกัน เป็นช่วงๆ ตามเรื่องราวที่ได้รับการถ่ายทำและตัดต่อมา ซึ่งอาจเป็นเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หรือเป็นการแสดงให้เหมือนจริง หรืออาจเป็นการแสดงและสร้างภาพจากจินตนาการของผู้สร้างก็ได้
ไม่ว่าจะเป็นชนิด ฟิล์มเนกาทีฟ (negative) หรือ ฟิล์มโพซิทีฟ (positive) ซึ่งได้ถูกถ่าย อัด หรือกระทำด้วยวิธีใด ๆ ให้ปรากฏรูปหรือเสียงหรือทั้งรูปและเสียง เป็นเรื่องหรือเหตุการณ์ หรือข้อความอันจักถ่ายทอดรูปหรือเสียง หรือทั้งรูปและเสียงได้ด้วยเครื่องฉายภาพยนตร์หรือเครื่องอย่างอื่นทำนอง เดียวกัน และหมายความตลอดถึงฟิล์มซึ่งได้ถูกถ่าย อัด หรือทำด้วยวิธีใด ๆ ให้ปรากฏสี เพื่ออัดลงในฟิลม์ชนิดดังกล่าว เป็นสาขาที่สร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะในรูปของภาพเคลื่อนไหว และเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมบันเทิง

ประวัติภาพยนตร์

ผู้ที่คิดประดิษฐ์ ต้นแบบของภาพยนตร์ขึ้นคือ โทมัส แอลวา เอดิสัน (Thomas Alva Adison) และผู้ร่วมงานของเขาชื่อวิลเลียม เคนเนดี้ ดิคสัน (William kenady dickson) เมื่อ พ.ศ. 2432 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 เรียกชื่อว่า "คิเนโตสโคป" (Kinetoscope) มีลักษณะเป็นตู้สูงประมาณ 4 ฟุต มักเรียกชื่อว่า "ถ้ำมอง" มีลักษณะการดูผ่านช่องเล็กๆ ดูได้ที่ละคน ภายในมีฟิล์มภาพยนตร์ซึ่งถ่ายด้วยกล้องคิเนโตกราฟ (Kenetograph) ที่เอดิสันประดิษฐ์ขึ้นเอง ฟิล์มยาวประมาณ 50 ฟุต วางพาดไปมา เคลื่อนที่เป็นวงรอบ ผ่านช่องที่มีแว่นขยายกับหลอดไฟฟ้าด้วยความเร็ว 48 ภาพต่อวินาที ต่อมาลดลงเหลือ 16 ภาพต่อวินาที
ต่อมาพี่น้องตระกูลลูมิแอร์ (Lumiere) ชาวฝรั่งเศสได้ พัฒนาภาพยนตร์ถ้ำมองของเอดิสันให้สามารถฉายขึ้นจอขนาดใหญ่ และดูได้พร้อมกันหลายคน เรียกเครื่องฉายภาพยนตร์แบบนี้ว่า แบบ "ซีเนมาโตกราฟ" (Cinimatograph) ซึ่งถือว่าเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2438 ต่อมาได้นำออกมาฉายตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลกตั้งแต่ พ.ศ. 2439 เป็นต้นมา ซึ่งคำว่า "ซีเนมา" (Cenema) ได้ใช้เรียกเกี่ยวกับภาพยนตร์มาถึงปัจจุบัน
ภาพยนตร์ที่สามารถฉายภาพให้ปรากฏบนจอขนาดใหญ่ ได้พัฒนาสมบูรณ์ขึ้นในอเมริกาในปี พ.ศ. 2438 โดยความร่วมมือระหว่าง โทมัส อาแมท (Thomas Armat) ซีฟรานซิส เจนกินส์ (C. Francis Jenkins) และเอดิสัน เรียกเครื่องฉายภาพยนตร์ชนิดนี้ว่า ไบโอกราฟ (Bioghraph) ในเวลาต่อมา หลังจากนั้นภาพยนตร์ได้แพร่หลายไปในประเทศต่างๆ ทั่วโลก เกิดอุตสาหกรรมการผลิตจำหน่ายและบริการฉายภาพยนตร์ขนาดใหญ่หลายแห่ง ทั้งในอังกฤษ ฝรั่งเศสและอเมริกา ภาพยนตร์ได้กลายเป็นสื่อถ่ายทอดเหตุการณ์ ศิลปการบันเทิงและวรรณกรรมต่างๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางตลอดมา
พ.ศ. 2440 พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรป ซึ่งในครั้งนั้นได้มีช่างภาพของบริษัทลูมิแอร์ ประเทศฝรั่งเศส บันทึกภาพยนตร์การเสด็จถึงกรุงเบอร์นของพระเจ้ากรุงสยามไว้ 1 ม้วน ใช้เวลาประมาณ 1 นาที นับว่าเป็นการถ่ายภาพยนตร์ม้วนแรกของโลกที่บันทึกเกี่ยวกับชนชาติไทย
ภาพยนตร์ในปัจจุบันมีการเผยแพร่อยู่ 4 ทางคือ ฉายตามโรงภาพยนตร์ ภาพยนตร์กลางแปลง และภาพยนตร์เร่ ถ่ายทอดลงแผ่น VCD, DVD และ Blu-ray Disc เผยแพร่ทางโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ต

การคำนวณหาระยะทางด้วยกล้องระดับ

      วิธีการนี้เป็นการหาระยะทางแบบหนึ่งที่มีความรวดเร็วพอสมควร สามารถทราบระยะทางได้รวดเร็ว กว่าการวัดด้วยเทป
     มีความละเอียด ถูกต้องอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง วิธีนี้เรียกว่า Sabina Method คือแนวเล็งของกล้อง จะอยู่ใน แนวราบ

     จุดประสงค์เพื่อจะทราบระยะ จากกล้องไปยังจุดที่ต้องการ
    วิธีการ ตั้งกล้องเหนือ หมุด ที่กำหนด ปรับระดับของกล้องแล้วส่องกล้องไปยังจุดหมายปลายทาง ซึ่งมีไม้สตาฟตั้งอยู่
           อ่านค่าที่สายใยบน Upper Hair line และสายใยล่าง Lower hair line นำมาลบกัน ซึ่งเรียกว่า staid difference
    
แล้วนำไปคูณกับ ค่า ของกล้อง ( ค่า หมายถึง ตัวคูณคงที่ของกล้องซึ่งบริษัทผู้ผลิตเป็นผู้กำหนด ปกติ K=100 )

  ตั้งกล้อง ณ.จุด A นำสตาฟไปตั้งไว้ ณ.จุดที่ต้องการหาระยะ อ่านสายใยบนได้ 1.985 สายใยล่างได้ 0.645 (K=100)
           
                        วิธีการคำนวณ  D=K(U-L)
                                                            = 100 ( 1.985-0.645 )
                                                            = 100 x 1.34

                                             เพราะฉะนั้น ระยะทางจะได้   = 134  เมตร 

 
 การคำนวณหาระยะทางด้วยกล้องวัดมุม

        วิธีการจะทำคลายๆแบบเดียวกันกับกล้องระดับแต่วิธีนี้จะดีกว่า กล้องระดับตรงที่ว่าถ้าส่องไม้
        สตาฟไม่เห็นก็สามารถกระดกกล้อง
        ในแกรนดิ่ง ให้เห็นไม้สตาฟได้ ใช้ในกรณีที่ พื้นที่ส่วนใหญ่มีความต่างระดับกันมาก เช่น ภูเขา หนองน้ำต่างๆ

        ตั้งกล้อง ณ.จุด A นำสตาฟไปตั้งไว้ ณ.จุดที่ต้องการหาระยะ อ่านสายใยบนได้ 2.536 สายใยกลางได้ 1.768
                        สายใยล่าง 1.000 มุมกล้ององศาดิ่งอ่านได้ 9 องศา 30 ลิปดา 30 ฟิลิปดา (K=100)
                        วิธีการคำนวณ H=100 x s x cos ยกกำลัง2
                                                                                = U-L=s  2.536-1.000 = 1.536
                                                                                = 100 x 1.536 x cos ยกกำลัง2 9 ํ 30' 30"
                                                เพราะฉะนั้น ระยะทางจะได้   = 62.43 เมตร

รู้จักกับ Camtasia Studio 7

รู้จักกับ Camtasia Studio 7


                 โปรแกรม Camtasia Studio 7 คือโปรแกรมสำหรับจับภาพหน้าจอ หรือบันทึกการทำงาน เสียง หรือแม้บันทึกหน้าคนถ่ายด้วยกล้องที่ติด บนหน้าจอของโดยสามารถให้แสดงบางส่วนหรือทั้งหมดของหน้าจอก็ได้ พูดง่ายคือการอัดวิดิโอหน้าจอคอมคุณไม่ว่าคุณจะเปิดเพลง คลิกไปตรงก็จะอัดมาตามที่คุณได้ทำกิจกรรมนั้น เหมาะสำหรับครูที่ทำสื่อการสอนบนอินเตอร์เนตและที่สำคัญใช้งานง่ายมาก เนื่องจากการใช้โปรแกรมมีหลากหลายขั้นตอนผม mr.howto108 ได้แบ่งเป็นบทเรียนการใช้งานอย่างง่ายๆ ให้คุณสามารถเข้าไปศึกษาขั้นพื้นฐานได้พร้อม workshop สาธิตการทำคลิปการสอนขึ้นมา 1 คลิป
1.เมนูเครื่องมือต่างๆ : ในส่วนนี้จะเป็นแถบเมนูที่จำเป็นการใช้บ่อยๆ เช่นพื้นที่เก็บไฟล์,การตั้งค่าเสียง,การ Zoom pan,การใส่ข้อความ
2.ส่วนของการแสดงวิดิโอ : ที่แสดงวิดิโอที่เราทำ หรือแก้ไข ก็จะแสดงให้เห็นเลยหลังจากที่เราตัดหรือทำอะไรต่างๆ
3.ส่วนของ time lime : ส่วนแสดงสถานะการใช้ effect แสดงช่วงเวลานั้นๆของวิดิโอที่อัด